วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

สอนทำ SEO : Breadcrumb คืออะไร มีผลกับ SEO อย่างไร


วิธีทำ SEO ในที่นี้ Breadcrumb คือ เครื่องมือที่ใช้นำทางของเว็บให้เราสามารถรู้ว่าขณะนี้ เราอยู่ตรงส่วนไหนของเว็บไซต์ อยู่ลึกจากหน้าหลัก มาแค่ไหนแล้ว โดยแต่ละเว็บไซต์ก็จะมีรูปแบบต่างๆกันไป ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของแต่ละเว็บ 
กล่าว คือ ชุดของ Link เมนู ที่ระบุว่า เรากำลังอยู่ที่ตำแหน่งใดของเว็บนั่นเอง เช่น เข้าจากหน้า A ไปหมวด B ไปอ่านบทความ C ในแนวลึกเข้าไป Breadcrum ก็จะแสดงผลออกมาในรูป  A -> B-> C ซึ่งทำให้ผู้ใช้งาน เกิด UX ที่ดีต่อเว็บเรา เป็นสิ่งจำเป็นมากๆที่ทุกๆเว็บควรมี 
ดังภาพ
ภาพตัวอย่าง Breadcrum

หากมองจากตัวอย่าง เดาว่าหลายๆคนคงเข้าใจกันบ้างแล้วว่ามันคืออะไร  โดยส่วนที่ส่งผลต่อ SEO นั้น google จะนำส่วนของ breadcrumb ไปแสดงที่หน้าของผลการค้นหาด้วยนั่นเอง
ดังภาพ

วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

Google Sandbox (หลุมทราย) คืออะไร รับมืออย่างไร?


Google Sandbox  (หลุมทราย) ก็คือ  การที่ Google ได้ดูดเว็บไซต์ของเราไปเก็บไว้ โดยไม่ว่าก็จะ search หายังไงก็ไม่เจอ ค้นหาก็ไม่พบ หรือ ค้นจากชื่อเว็บ ก็ยังไ่ม่เจอเว็บ ทั้งๆที่เว็บเรายังมี index อยู่เหมือนเดิม โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดมีหลายอย่างมากๆ เช่น การอัด Backlink ทีละมากๆ 
* Google Sandbox สำหรับตัวเจ้าของเว็บที่เพิ่งเริ่มทำเว็บใหม่ หรือ นักทำ SEO จำเป็นจะตัองรู้ ก็เพราะว่ามันมีผลอย่างยิ่งต่อการทำ SEO ของเว็บที่เกิดใหม่ หรือมีความมุ่งเน้นให้เว็บไซต์ใหม่มีอันดับที่ดีใน Search Engine 
สอน seo Google Sandbox คือ ทฤษฎีที่ใช้อธิบายว่าทำไมโดเมนที่เพิ่งจดทะเบียน หรือ มีการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์การครอบครองบ่อยๆ อันดับจึงไม่ดีนัก หรือ อธิบายได้ว่า เว็บไซต์ที่เกิดใหม่จะถูกกองรวมกันที่ “Sandbox (หลุมทรายของกูเกิ้ล)” หรือจะถูกกักอยู่ในพื้นที่จนกว่าเว็บใหม่นั้นจะปรับปรุงเนื้อหาให้มีคุณภาพเสียก่อน และพิสูจน์ได้ว่าเว็บเหล่านั้นสมควรได้รับการ Index หรือการติดอันดับค้นหาที่ Search Engine และเมื่อ Google เห็นว่าเว็บไซต์ใหม่นั้นมีคุณภาพ และให้ความสำคัญของเว็บไซต์ใหม่ เว็บไซต์ใหม่เหล่านั้นก็จะถูกปล่อยตัวออกมาจาก Sandbox (หลุมทราย) และอาจจะแสดงขึ้นที่อันดับสูงในหน้าผลการค้นหาที่ Google เวลาก็เป็นกุญแจสำคัญที่จะได้รับอิสระภาพที่จะถูกปลดพันธนาการจาก Google  Sandbox (หลุมทราย) อาจจะใช้เวลาตั้งแต่ 6 เดือนถึงหนึ่งปี หรือบางครั้งก็อาจใช้เวลานานกว่านั้น  
เมื่อ ติด Sandbox  Effect แล้ว จะออกจาก Sandbox  Effect เมื่อไร
เว็บไซต์ทุกๆเว็บที่มีการใส่เนื้อหาแล้ว ไม่นับรวมการจดโดเมนเนมล่วงหน้า ที่จดไว้เฉยๆ พูดง่ายๆคือ หากในเว็บไซต์มีการใส่เนื้อหาแล้ว ถึงแม้จะมีน้อยบทความแต่ก็ถือว่ามีการ Online แล้ว จะมีการตรวจสอบโดย Googlebot เข้ามาเว็บไซต์ของเราเป็นครั้งแรก เมื่อนั้นเว็บไซต์เราก็จะเข้าไปติด Sandbox Effect ได้
ต้องทำยังไง ? เมื่อติด Sandbox  Effect
การออกจาก Sandbox เมื่อเว็บไซต์เรามีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือมากพอ ใช้เวลาประมาณอย่างน้อย 6 เดือน เว้นแต่ว่าเว็บไซต์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือมากๆ และมีเว็บที่มีความน่าเชื่อถือลิงค์เข้ามาหาจำนวนพอสมควร เว็บนั้นก็อาจจะใช้เวลาน้อยกว่า 6 เดือน ก็ออกจาก Sandbox Effect ได้แล้ว
หากออกจาก Sandbox  Effect เว็บไซต์เราก็จะมี Page Rank หรือค่า PR โดยเริ่มจาก 0,1,2… ไปเรื่อยๆ ยิ่งมี PR สูงเท่าไหร่ ก็หมายความว่า เว็บไซต์ของเราเป็นเว็บที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ ก็ทำให้มีโอกาสที่จะติดอันดับดีๆ ใน Google มากขึ้นอีกด้วย เช่น sanook.com มี PR 7 , facebook.com มี PR เป็น 10 เป็นต้น 
จะดูอย่างไรว่าหลุดจาก Sandbox  Effect แล้ว  
ให้ลองค้นหาใน Search Engine โดยให้เราพิมพ์ site:www.domainname.com หากมีการค้นพบเจอเว็บไซต์ของเรานั้น แสดงว่าเว็บไซต์เราหลุดออกมาจาก Sandbox  Effect แล้ว
          หลังจากนี้เราควรพัฒนาเว็บไซต์ของเราให้มีคุณภาพ เนื้อหา บทความ ข่าวสาร มีการอัพเดทเนื้อหาใหม่อยู่เสมอ การหลุดจาก Sandbox  Effect แล้วจะไม่เข้าไปติด Sandbox  Effect อีก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถทำอะไรๆ ก็ได้ เราไม่ควรสแปม Keyword หรือเพิ่ม Backlink มากจนเกินไป เพราะจะทำให้เราถูก De index หรือก็คือ การที่ Google ไม่แสดงผลเว็บไซต์ของเราบน Google
เช่น เราเช็ค site:www.domainname.com ใน Google แล้วพบว่าเว็บไซต์เราถูก Index ไว้ 10 หน้า Google แต่พอวันนึงมาเช็คใหม่ดันเจอเพียง 5 หน้า แสดงว่าเราถูก De index หรือหากร้ายแรงมากเราอาจจะโดนลบออกจากฐานข้อมูล Search Engine ไปเลย ที่นี้ค้นข้อมูลอย่างไรก็ไม่เจอเว็บไซต์ของเราอีกแล้ว
ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่า เว็บไซต์ที่เปิดใหม่ทั้งหลาย จะถูก Google มาทำการตรวจสอบรายละเอียดเนื้อหา แล้วเอาไปเก็บเข้าคลังเอาไว้ จากนั้น ถ้าเว็บไซต์เรามีการพัฒนา เนื้อหามีคุณภาพ ฯลฯ เป็นต้น เว็บไซต์ของเราก็จะมีค่า PR เมื่อ Search จาก Google แล้วจะอยู่ลำดับต้น ๆ ของหน้าเพจ Google 
คำสั่ง Google ที่ใช้ตรวจสอบการหน้าเว็บที่ถูกเก็บลงฐานข้อมูลของ Google Index 
site:ชื่อเว็บไซต์.com

คำสั่ง Google ที่ใช้ตรวจสอบจำนวนลิงค์ (Link Popularity)
link:ชื่อเว็บไซต์.com