การนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพ หมายถึง การสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดความสนใจและเป็นประโยชน์ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างเว็บไซต์
ถ้าหากเราทำเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาดีๆ ผู้เข้าใช้ก็อาจจะบอกต่อผู้ใช้รายอื่นๆ ให้เข้าถึงเว็บไซต์นั้นๆ
โดยเผยแพร่ผ่านบล็อก บริการสื่อสังคมออนไลน์ (social media services) อีเมล ฟอรัม หรือช่องทางอื่นๆ การกระจายข้อมูลแบบบอกต่อ ปากต่อปาก คือสิ่งที่จะช่วยสร้างความนิยมของเว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ใช้งานและ Google โดยมักจะมาควบคู่กับเนื้อหาที่มีคุณภาพ
วิธีทำ SEO ที่ดี คือการเขียนเนื้อหาอย่างมีคุณภาพทำได้ดังนี้
คาดการณ์ระดับความเข้าใจของเนื้อหาที่แตกต่างกันตามผู้ใช้และเสนอเนื้อหาที่ครบถ้วนสำหรับผู้ใช้ทุกระดับ
ให้ลองนึกถึงคำต่างๆ ที่ผู้ใช้อาจจะใช้ในการค้นหาเว็บไซต์ของเรา ผู้ใช้ที่รู้ลึกในหัวข้อนั้นๆ อาจเลือกใช้คำหลักที่แตกต่างจากคำหลักของผู้ใช้ใหม่ๆ ยกตัวอย่างเช่น คนที่เคยเรียนดนตรีอาจค้นหาคำว่า YAMAHA หรือ KPN Music ในขณะที่ผู้ที่สนใจอยากเรียนเกี่ยวกับดนตรีอาจเลือกใช้ข้อความค้นหาทั่วๆ ไป เช่น โรงเรียนสอนดนตรี การคาดเดา
พฤติกรรมการค้นหาที่แตกต่างกันเหล่านี้และปรับปรุงในการเขียนเนื้อหาของคุณให้สอดคล้องกัน
(การใช้คำหลักต่างๆ ที่เหมาะสม) จะช่วยให้ได้รับผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
Google AdWords มีเครื่องมือหลักที่เป็นประโยชน์ซึ่งจะช่วยให้เราพบคำหลักใหม่ๆ และดูจำนวนในการค้นหาสำหรับแต่ละคำได้นอกจากนี้ เครื่องมือสำหรับเว็บมาสเตอร์ของ Google ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อความค้นหายอดนิยมที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรา รวมถึงข้อความที่นำผู้ใช้มายังเว็บไซต์มากที่สุด
ลองนึกถึงการสร้างบริการใหม่ๆ ที่แตกต่างจากเว็บไซต์อื่นๆ คุณสามารถเขียนเกี่ยวกับงานทดลองใหม่ๆ ข่าวสาร บทความให้ความรู้ที่น่าสนใจ หรือสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มผู้ใช้ของเราโดยเฉพาะ ที่เว็บไซต์อื่นๆ อาจไม่มีหัวข้อความรู้หรือความเชี่ยวชาญในการเขียนบทความเหล่านี้
แนะนำหลักการเขียนเนื้อหาที่ดีเผื่อใช้ในการเผยแพร่
1. เขียนข้อความให้อ่านได้ง่าย
ผู้ใช้ชอบเนื้อหาที่มีการเรียบเรียงอย่างดีและเข้าใจง่าย
ควรหลีกเลี่ยง
– การเขียนเนื้อหาที่ใช้ตัวสะกดและไวยากรณ์ผิดหลายจุด ควรพิสูจน์อักษาก่อนใช้เผยแพร่
– การฝังข้อความลงในรูปภาพเป็นข้อความ (เนื่องจากผู้ใช้อาจต้องการที่จะคัดลอกและวางข้อความนั้นๆ ซึ่งตัวเครื่องมือค้นหาไม่สามารถอ่านได้)
2. จัดระเบียบเนื้อหาในรูปแบบหัวข้อต่างๆ
การจัดระเบียบเนื้อหาช่วยให้ผู้ใช้สามารถแยกหัวข้อต่างๆ ของเนื้อหาได้เป็นอย่างดี
การแยกย่อยเนื้อหาออกเป็นกลุ่มหรือเป็นสัดส่วนอย่างสมเหตุสมผลจะช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้รวดเร็วขึ้น
ควรหลีกเลี่ยง
– การเขียนเนื้อหายาวๆ ประโยคติดๆกัน พูดถึงหลายๆหัวข้อในหน้าเว็บไซต์ โดยไม่ใช้ย่อหน้า หรือ หัวข้อย่อย
3. เขียนให้คุมประเด็นเนื้อหา
การจัดระเบียบเนื้อหาให้เป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าชมเว็บไซต์ ให้สามารถเข้าใจถึงจุดเริ่มต้นของประเด็นเนื้อหาและจุดสิ้นสุดได้
การจัดแบ่งเนื้อหา อย่างเป็นสัดส่วน จะช่วยให้ผู้ใช้พบเนื้อหาที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
4. ใช้ภาษาที่สอดคล้องกับเนื้อหา
ให้ลองนึกถึงข้อความคำค้นหาที่ผู้ใช้อาจระบุเพื่อค้นหาเนื้อหาในเว็บไซต์ของเรา
ผู้ใช้ที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหัวข้อนั้นๆอาจจะเลือกใช้คำหลักในการค้นหาที่แตกต่างจากผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆเลย
การคาดการณ์และคำนึงถึงความแตกต่างในพฤติกรรมการค้นหา การเขียนเนื้อหา การใช้วลีหลักร่วมกันอย่างลงตัว ย่อมส่งผลดีต่อการค้นหา เช่นกัน
5. สร้างเนื้อหาแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร
การที่เราเขียนเนื้อหาที่แปลกใหม่ไม่เพียงแต่จะทำให้ฐานผู้เข้าชมที่มีอยู่เดิม กลับมาชมเว็บไซต์ของเราเป็นประจำเท่านั้น
แต่ยังดึงดูดผู้เข้าชมรายใหม่ๆได้ด้วยเช่นกัน
ควรหลีกเลี่ยง
– การดัดแปลง (หรือแม้แต่การคัดลอก) เนื้อหาจากที่อื่นๆ ที่ไม่ให้ประโยชน์ต่อผู้ใช้
– การใส่เนื้อหาที่ทำซ้ำหรือเนื้อหาที่ใกล้เคียงกับเนื้อหาเดิมลงทั่วทั้งเว็บไซต์ของคุณ
6. นำเสนอเนื้อหาหรือบริการพิเศษ
ลองเสนอบริการใหม่ๆที่เป็นประโยชน์อย่างที่เว็บไซต์อื่นๆ ไม่มีให้
7. การสร้างเนื้อหาโดยเน้นที่เข้าผู้ใช้เป็นหลัก ไม่ใช่เครื่องมือค้นหา
การออกแบบเว็บไซต์ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้และเพื่อให้เครื่องมือค้นหาเข้าถึงได้ง่ายจะส่งผลดีมากกว่า
ควรหลีกเลี่ยง
– ใช้คำหลักที่ไม่จำเป็นจำนวนมากๆเพื่อลวงเครื่องมือค้นหา เพราะจะสร้างความรำคาญแก่ผู้ใช้
– การใส่ข้อความยาวๆ เช่น “คำที่มักสะกดผิดที่ใช้ในการมายังหน้าเว็บนี้” ซึ่งไม่มีความหมายกับผู้ใช้เลย
– การซ่อนข้อความไม่ให้ผู้ใช้เห็นเพื่อใช้กับเครื่องมือค้นหา